จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง มีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับที่ 5 และมีพื้นที่กว้างเป็นอันดับที่ 17ของประเทศไทย
คำขวัญประจำจังหวัด : "เมืองปราสาทหิน ถิ่นภูเขาไฟ ผ้าไหมสวย รวยวัฒนธรรม เลิศล้ำเมืองกีฬา"
ตราประจำจังหวัด : เป็นรูปปราสาทเขาพนมรุ้งมีกำแพงล้อมรอบ ภายในเป็นท้องพระโรง มีเทวสถาน และรอยพระพุทธบาทจำลองประดิษฐานอยู่บนยอดเขาแห่งนี้ด้วยภาพเทวดาร่ายรำ หมายถึงดินแดนแห่งเทพเจ้าผู้สร้าง ผู้ปราบยุคเข็ญ และผู้ประสาทสุข ท่่าร่ายรำ หมายถึงความสำราญชื่นชมยินดี ซึ่งตรงกับการออกเสียงพยางค์สุดท้ายของเชื่อจังหวัด
ดอกไม้ประจำจังหวัด : ดอกสุพรรณิการ์ หรือ ดอกฝ้ายคำ
ประวัติความเป็นมา
บุรีรัมย์เป็นเมืองแห่งความรื่นรมย์ตามความหมายของชื่อเมืองที่น่าอยู่สำหรับคนในท้องถิ่นและเป็นเมืองที่น่ามาเยือนสำหรับคนต่างถิ่น เมืองปราสาทหินในเขตจังหวัดบุรีรัมย์มากมีไปด้วย ปราสาทหินใหญ่น้อย อันหมายถึงความรุ่งเรืองมาแต่อดีต จากการศึกษาของ นักโบราณคดีพบหลักฐานการอยู่อาศัยของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร ์สมัยทราวดี และที่สำคัญที่สุดพบกระจายอยู่ทั่วไป ในจังหวัดบุรีรัมย์มากคือ หลักฐานทางวัฒนธรรมของเขมรโบราณ ซึ่งมีทั้งปราสาทอิฐ และปราสาทหินเป็นจำนวนมากกว่า 60 แห่ง รวมทั้งได้พบแหล่งโบราณคดีที่สำคัญคือเตาเผา ภาชนะดินเผา และภาชนะดินเผาแบบที่เรียกว่าเครื่องถ้วยเขมร ซึ่งกำหนดอายุได้ประมาณพุทธศตวรรษที่ 15 ถึง 18 อยู่ทั่วไปหลังจากสมัยของวัฒนธรรมขอมหรือเขมรโบราณ แล้วหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดบุรีรัมย์ เริ่มมีขึ้นอีกครั้งตอนปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยปรากฏชื่อว่าเป็นเมืองขึ้น ของเมืองนครราชสีมาและปรากฏชื่อต่อมาในสมัยกรุงธนบุรีถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ว่าบุรีรัมย์มีฐานะเป็นเมือง ๆ หนึ่ง จนถึง พ.ศ.2476 ได้มีการจัดระเบียบราชการบริหารส่วนภูมิภาคใหม่ จึงได้ชื่อเป็นจังหวัดบุรีรัมย์มาจนถึงปัจจุบันนี้
สภาพภูมิประเทศ
จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของประเทศไทย มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดและประเทศใกล้เคียงดังนี้
-
ทิศเหนือ ติดต่อกับจังหวัดขอนแก่น จังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดสุรินทร์
-
ทิศตะวันออก ติดต่อกับจังหวัดสุรินทร์
-
ทิศใต้ ติดต่อกับจังหวัดสระแก้ว และประเทศกัมพูชา
-
ทิศตะวันตก ติดต่อกับจังหวัดนครราชสีมา
สภาพภูมิอากาศ
ภูมิอากาศในจังหวัดบุรีรัมย์ มีอยู่ 3 ฤดู คือ
-
ฤดูร้อน ปลายกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม มีอุณหภูมิสูงสุดในเดือนเมษายน
-
ฤดูฝน มิถุนายน - กันยายน
-
ฤดูหนาว ตุลาคม - มกราคม มีอากาศหนาว และแห้งแล้ง อุณหภูมิต่ำสุด 11 องศาเซลเซียส
เทศกาลและงานประเพณี
งานดอกฝ้ายคำบาน ช่วงเดือน มกราคม - กุมภาพันธ์ ของทุกปี ชมความงดงามของดอกฝ้ายคำ หรือ “ดอกสุพรรณิการ์” ที่กำลังบานเหลืองสะพรั่งรอบอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ โดยเฉพาะบริเวณลานโพธิ์จะมีต้นดอกฝ้ายคำปรากฏอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเขาพนมรุ้งเป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้วและพบต้นฝ้ายคำเป็นจำนวนมากที่สุดในประเทศ
ประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง จัดขึ้นในเดือนเมษายนของทุกปี เป็นวันที่ประชาชนทั่วไปร่วมทำบุญปิดทองนมัสการรอยพระพุทธบาทจำลอง และทำให้ชาวบ้านได้มีโอกาสพบปะสังสรรค์แลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ โดยเฉพาะการทอผ้าไหมเนื่องจากชาวบ้านหญิงชายจะแต่งกายด้วยผ้าไหมทอลวดลายสวยงามประณีตที่สุดของตนเองเป็นการอวดฝีมือและความสามารถสร้างชื่อเสียงของหมู่บ้านและของตนเองอีกด้วยและยังเป็นโอกาสให้ชาวบ้านได้เที่ยวชมความงามของปราสาทพนมรุ้ง และชักชวนให้คนเดินทางมาเที่ยวชมในงานประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้งมากขึ้นทุกปี
มหกรรมว่าวอีสาน วันเสาร์-อาทิตย์แรกของเดือน ธ.ค. บริเวณสนามกีฬา อ.ห้วยราช ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวหรือย่างเข้าสู่ฤดูหนาว มีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดแรง คนชนบทก็พากันทำว่าวแอก ซึ่งมีรูปแบบเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น บุรีรัมย์จัดมหกรรมว่าวอีสานขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2529 เพื่ออนุรักษ์เอกลักษณ์ของอีสานใต้ให้คงอยู่และเผยแพร่ให้เป็นทรู้จักกว้างขวาง เปิดโอกาสให้คนทุกตำบล ทุกหมู่บ้านทำว่าวแอกมาแข่งขันชิงรางวัลกัน
ของฝาก/ของที่ระลึก
ผ้าไหมนาโพธิ์ ผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ที่ขึ้นชื่อเสียง และมียอดจำหน่ายสูงสุด ผ้าไหมนาโพธิ์ มีเอกลักษณ์เด่นที่มีลวดลายสวยงาม เป็นผ้าไหมที่มีคุณภาพ ผลิตจากเส้นไหมแท้ ด้วยฝีมือการถักทอของกลุ่มชาวบ้านในทุกขั้นตอน นับตั้งแต่การปลูกหม่อน เลี้ยงไหม และการทอผ้า โดยลักษณะเด่นของผ้าไหมนาโพธิ์ เนื้อผ้ามีความหนามีน้ำหนัก นุ่ม มีความวาวในเนื้อผ้า คงทนและใช้ได้นาน ไม่ตกสี ดูแลรักษาง่าย
กระยาสารท ขนมไทยที่ถูกใจคนทุกเพศทุกวัย ผลิตภัณฑ์ของฝากพื้นบ้านที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น มีหลายรสได้แก่ กระยาสารทรสดั้งเดิม, รสใบเตย และรสงาดำ เคล็ดลับความเด็ดอยู่ที่การเคี่ยวกะทิกับน้ำตาลปี๊บผสมแบะแซ ต้องเหนียวข้นเป็นยางมะตูม ก่อนคลุกเคล้าถั่วลิสง ข้าวพอง และงา
สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม
ศูนย์วัฒนธรรมอีสานใต้ เป็นแหล่งเก็บรวบรวม และจัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ อันมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ รวมทั้งเป็นแหล่งที่จะค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับประวัติศาสตร์โบราณคดีและศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น เปิดให้เข้าชมได้ทุกวันในเวลาราชการ
หมู่บ้านโฮมสเตย์โคกเมือง ตั้งอยู่ที่บ้านโคกเมือง ตำบลจรเข้มาก เป็นหมู่บ้านโฮมสเตย์ที่ได้รับรางวัลระดับประเทศมากมาย มีกิจกรรมให้เรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นมากมาย อาทิ เรียนรู้การปลูกข้าวหอมมะลิภูเขาไฟ การทอเสื่อกก การทอผ้าไหม การเรียนรู้เกษตรวิถีพอเพียง เป็นต้น